นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ มองว่า ความขัดแย้งกันเองของแบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ปี 65 ของ บมจ.ไอทีวี ที่ระบุ สินค้า บริการ เป็น “สื่อโฆษณา และผลตอบแทนจากการลงทุน” กับ เอกสารงบการเงินฉบับเต็ม ที่ปรากฎในเว็บไซต์ กลต. ที่ไม่ได้ระบุรายได้จากสื่อโทรทัศน์ หรือโฆษณา เข้าข่ายยื่นเอกสารที่มีข้อความอันเป็นเท็จต่อหน่วยงานราชการ เนื่องจากเป็นเอกสารงบการเงินในปีเดียวกัน ซึ่งไม่ว่าจะยื่นกับหน่วยงานไหน ในรายละเอียดก็ต้องสอดคล้องกัน
"ศรีสุวรรณ" มองเกมร้องหุ้น ITV สามารถทำได้
หุ้น ITV "วีระ" เชื่อมีขบวนการล้ม "พิธา"
ส่วนการที่มีคำว่า “สื่อโฆษณา” ในแบบ ส.บช.3 จะอ้างว่า ไม่ได้แจ้งเท็จ แต่เขียนตามวัตถุประสงค์ของบริษัทได้หรือไม่นายเดชา ให้ข้อมูลว่า วัตถุประสงค์ของบริษัทมีหลายข้อ ต้องเลือกเขียนวัตถุประสงค์ที่ยังประกอบการอยู่ หรือไม่ก็ต้องระบุว่า “ไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากติดคดีความ” เหมือนกับปี 63-64 การที่ ITV ไม่ได้ทำสื่อโฆษณาแล้ว แต่นำมาเขียนในแบบ ส.บช.3 จึงสะท้อนเจตนาว่า จงใจยื่นเอกสารเท็จ
ซึ่ง การแจ้งข้อความเท็จ ผู้ที่จัดทำบัญชี ผู้สอบทาน รวมถึงกรรมการบริหารบริษัท เข้าข่ายผิดกฎหมายหลายฉบับ ทั้ง พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด มาตรา 94 และมาตรา 216 และ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มาตรา 312 (2) มีโทษปรับหลักล้านบาท รวมถึงจำคุก
นอกจากนี้ “นักร้อง” ที่นำเอกสารดังกล่าวไปยื่น กกต. อาจเข้าข่าย ผิด พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ฯ มาตรา 143 กระทำการเท็จให้เข้าใจว่าผู้สมัครฝ่าฝืน พรป.เลือกตั้ง มีโทษจำคุกถึง 7 ปี
ส่วนกรณีที่มีการเปิดเผยร่างเอกสารงบการเงินไตรมาส 1/2566 ที่เป็นเพียงแบบร่างสำหรับการใช้งานภายใน ออกสู่สาธารณะ นายเดชา ตั้งข้อสังเกตว่า การเปิดเผยเอกสารที่ยังคงเป็นแบบร่างอยู่ โดยทั่วไปไม่เคยเห็นบริษัทที่ไหนทำ โดยเฉพาะบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เพราะมีหลักธรรมาภิบาลอยู่ อย่างไรก็ตาม เป็นเพียงเรื่องความเหมาะสม แต่ไม่มีข้อกฎหมายห้าม อาจต้องไปดูว่าผิดข้อบังคับของบริษัทหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ กลตคำพูดจาก นสล็อตออนไลน์. ต้องตรวจสอบ
ส่วนการที่ “นักร้อง” เอาเอกสารภายในไปใช้ ต้องตรวจสอบว่า รู้เห็นกันกับบริษัทเพื่อต้องการกลั่นแกล้งผู้สมัคร ส.ส. หรือไม่ เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ฯ มาตรา 143 เช่นกัน